คลองพระเจ้าหลวง เมืองรวงข้าว เชื้อชาวไทย เลื่อมใสศาสนา ก้าวหน้าสวนส้ม นิยมสามัคคี เป็นศรีหนองเสือ

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

SURABAYA เจ้าวายร้ายตัวฉกาจสำหรับคอมพิวเตอร์

Surabaya เอ๊ะนี่มันชื่อเมืองเมืองนึงที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดอยู่บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซียนี่นา แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับบทความในหมวดหมู่ไวรัสคอมพิวเตอร์ละเนี่ย ส่งสัยกันใช่ไม๊ล่ะ ค่ะสำหรับSurabaya ที่จะพาทุกท่านไปรู้จักกันในวันนี้คือไวรัส ที่คอยปั่นหัวเหล่าชาวคนคอมพิวเตอร์นี่เอง
เอ๊ะมันปั่นหัวยังไง? มันชื่อเหมือนเมืองที่สวยงามนี่นามันต้องมีข้อดีบ้างสิ 555 แต่ผิดถนัดมันไม่มีข้อดีอะไรเลยแถมยังร้ายแบบสุดๆด้วยมันร้ายอย่างไรนั้นเดี๋ยวไปติดตามดูกันดีกว่า
อย่างแรกเลยนั้นเมื่อคุณติดไวรัสตัวนี้แล้วเมื่อคุณบูตเครื่องก่อนที่จะเข้าสู่หน้าวินโดว์คุณจะเจอดังภาพต่อไปนี้
คำแปล
สุราบาย่า ในวันเกิดของฉัน อย่าทำฉันเลย ฉันเพิ่งจะส่งข้อความจากคอมพิวเตอร์ของคุณขอบคุณนะที่เป็นเพื่อนกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับฉันแล้ว มันมีความหมายมากๆ ขอโทษด้วยนะถ้าหากสิ่งที่ฉันขอคืออยากมีเพื่อนร่วมชีวิต ฉันน่าจะเข้าใจว่าสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ ไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งของเธอ มันก็แค่ฝันลมๆแล้งๆให้กับคนรักที่ฉันไม่เคยได้ครอบครอง


จากนั้นก็เจออาการต่างๆ มากมาย อาทิเช่น
1. โฟล์เดอร์หายไป แล้วมีไฟล์ .scr มาแทนที่
2. คลิกขวาที่โฟล์เดอร์คำว่า Open ไม่มี
3. มันจะทำการลบไฟล์ของคุณอย่างช้าๆ
4. เมื่อเสียบแฟล๊ตไดร์จะติดเชื้อทันที
5. จะเปิดโชว์นามสกุลใน Folder Options ไม่ได้

วิธีแก้ไข
1. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ Kill Surabaya.bat เครื่องจะรีสตาร์ทใหม่ เมื่อเข้าวินโดว์ใหม่เรียนร้อยแล้ว


2. กดปุ่มรูปวินโดว์ที่คีย์บอร์ด + F จะมีหน้าต่าง Search ขึ้นมา


3. คลิกที่ All files and folders

4. คลิกที่ More advanced options

5. คลิกเลือก Search system folders, Search hidden files and folders, Search subfolders ทั้ง 3 ช่อง

6. พิมพ์ .scr ในช่อง All or part of the file name: แล้วคลิกปุ่ม Search

7. คลิกขวาที่ช่องหน้าต่างขวามือ แล้วเลือก Arrange Icon By --> แล้วเลือกคลิกที่ Modified

8. ลบรูปโฟลเดอร์นามสกุล .scr ไฟล์ขนาด 40.0 K ทิ้งทั้งหมด (ยกเว้นไฟล์ขนาด 40.0 K ที่ไม่ใช่รูปโฟลเดอร์)
แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะกับการกำจัดไวรัสSurabaya

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ


ข้อที่ 1. น้องๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ

ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ
ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ

ข้อที่ 4.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง

ข้อที่ 5.นั้นงัยๆๆๆพี่บอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!น้องๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนน้องๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่พี่เฉลย น้องก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนน้องๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ

ข้อที่ 6.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าน้องๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากน้องๆ จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ

ข้อที่ 7.ในการอ่านหนังสือ น้องๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อน้องๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้น้องๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)

ข้อที่ 8.นั้นแน่ๆ พี่รู้นะว่าน้องๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าพี่จะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าน้องๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ

ข้อที่ 9.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้น้องๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้น้องๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกพี่ให้น้องๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่น้องๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)

ข้อที่ 10.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย น้องๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนน้องคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวน้องๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะน้องๆ

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

วิธีรักษาสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์นานๆต่อครั้งในระหว่างวัน



-วางจอห่างจากศีรษะ หนึ่งฟุตครึ่ง

-วางจอให้ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการน้ำตาแห้ง

1. ใช้จอ LCD เท่านั้น ปรับตั้งโหมดให้แสงแบบอินเทอร์เน็ต หรือ ปรับบบแมนนวล คือ BRIGHTNESS

กับ CONTRAST ให้น้อยกว่า 50

2. ปรับแสงสว่างเข้าทางด้านหลังผู้ใช้คอม ให้แสงตกกระทบกับจอภาพแล้วสบายตาที่สุด

3. ทุก15 นาที ให้ละสายตาจากจอ แล้วมองไปยังเป้าประจำคือส่วนที่ไกลที่สุดของห้องหรือมองลอดหน้าต่างออกไป

ให้ได้ 30 วินาทีต่อครั้ง

4. ทุก15 นาที ถ้ามีโอกาสละสายตาจากจอสักพัก แล้วหลับตาสักหนึ่งครั้ง เป็นทางเลือก

5. ทุกหนึ่งชั่วโมง ให้ลุกไปเข้าห้องน้ำทำธุระ พักดื่มน้ำ ยืดเส้นยืดสายเดินไปมาแล้วมานั่งหน้าคอมต่อ

6. มีวิทยุ พร้อมการใช้งานคอม จะทำให้ประสาทคลายเครียด เสียงดนตรีทำให้ความคิดโปร่งเบา

7. มีทีวีอยู่ใกล้ตัวในห้อง ช่วยให้มีชีวิตชีวาตามสไตล์แต่ละช่อง แต่ละรายการ

8. บังคับตัวไม่ได้ บังคับคอมพิวเตอร์ให้ปิดจอทุกช่วงเวลา หนึ่งชั่วโมง

9. รับประทานอาหารที่ให้คุณค่า วิตามินเอ เช่น ตับ ไข่ นม ผักใบเขียว ฟักทอง ตำลึง น้ำมะเฟือง แครอท ผักโขม

ฯลฯ ทุกวัน

10. หากรู้สึกตาแห้ง ให้กระพริบตาถี่ๆ เมื่อจำเป็นต้องใช้การแก้ทันทีให้ใช้ น้ำตาเทียมหยอดตา (แบบราคาถูก)

11. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เวลา พิมพ์งาน ควรเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของ

ตัวอักษรให้มากขึ้น

................................................................................................................................